วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

'พิสิฐชัย' เจอข้อหา ผิด พ.ร.บ.คอมฯ 'ผบก.ป.'ยังไม่มีการเอาผิด 4 วัดดัง
'พิสิฐชัย' ถูกกองปราบ ดำเนินคดี ผิด พ.ร.บ.คอมฯ ข้อหาเดียว รับโพสต์ข้อมูลจริงแต่เป็นความเห็นส่วนตัว ด้าน ผบก.ป. ยัน ยังไม่มีการเอาผิด หรือสอบสวน ปมเงินทอนวัด ลอต 4 กับ 4 วัดดัง
หลังสอบปากคำ นายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ กองคดีภาษีอากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นานกว่า 3 ชั่วโมง ในกรณีที่นายพิสิฐชัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าจะมีการจับกุมดำเนินคดีกับเจ้าอาวาสวัดต่างๆ เกี่ยวกับคดีเงินทอนวัด


ที่มาthairath






วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

เร่งหามือโพสต์ภาพ “ตึกเอียงกลางกรุงฯ” ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งเร่งหาตัวคนโพสต์ภาพตึกสูงย่านแยกเพลินจิตมาดำเนินคดี ตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันนี้ (16 ส.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการให้ ตำรวจ สน.ลุมพินี หาคนโพสต์ภาพอาคารสูงกำลังก่อสร้างย่านแยกเพลินจิต พร้อมระบุข้อความว่า ตึกมีการเอียงใกล้ทรุดตัว จนเป็นกระแสข่าวที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนที่อยู่ใกล้อาคารดังกล่าว โดยให้นำตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว ตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา14 (2) ข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่รู้แล้วว่าใครเป็นผู้โพสต์สร้างข่าวลือดังกล่าว
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากเตือนพี่น้องประชาชนว่าก่อนที่จะแชร์หรือโพสต์ข้อความใดๆ ให้ตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อน เพราะหากไม่เป็นความจริง นอกจากจะสุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์แล้ว ยังอาจจะทำให้ผู้อื่นเกิดความหวาดกลัว หรือตื่นตระหนกตกใจได้
ที่มาnews.thaipbs

วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ยอดคนไทยลงชื่อต้าน พ.ร.บ.คอมฯ ทะลุ 3 แสน
เครือข่ายพลเมืองเน็ต ผู้ริเริ่มล่ารายชื่อผ่านเว็บไซต์ change.org เพื่อคัดค้าน การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ล่าสุดมีประชาชนเข้าร่วมแล้วกว่า 310,000 คน
กรณี เครือข่ายพลเมืองเน็ต ผู้ริเริ่มล่ารายชื่อผ่านเว็บไซต์ change.org เพื่อคัดค้าน ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วย การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ฉบับที่…. พ.ศ….. ที่เข้าสู่การพิจารณาวาระ 3 ของที่ประชุม สนช.ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ ล่าสุดมีประชาชนร่วมลงชื่อแล้วกว่า 310,000 คน
โดยในวันนี้ (15 ธ.ค.) ตัวแทนเครือข่ายพลเมืองเน็ตและแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยจะเดินทางไปยื่นรายชื่อที่ร่วมรณรงค์ออนไลน์ผ่าน change.org “หยุด Single Gateway หยุดกฎหมายล้วงข้อมูลส่วนบุคคล” ต่อตัวแทน สนช.ที่รัฐสภา อีกด้วย
ขณะที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มีบุคคลบางกลุ่มพยายามปลุกกระแสคัดค้านร่างพระราบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่…) พ.ศ. …. ที่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเห็นชอบให้ผ่านวาระที่ 2 ไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา และจะเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 3 ในวันที่ 15 ธันวาคม
โดยเชื่อมโยงสาระสำคัญของกฎหมายเข้ากับแนวคิดซิงเกิ้ลเกตเวย์ในทำนองว่า จะเป็นกฎหมายล้วงข้อมูลส่วนบุคคล อะไรก็ตามเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง และรัฐบาลยืนยันมาตลอดว่าไม่มีแนวคิดที่จะดำเนินการซิงเกิ้ลเกตเวย์แต่อย่างใด แต่คนกลุ่มนี้ก็พยายามสร้างกระแสต่อต้านโจมตีอย่างต่อเนื่อง
จึงขอให้ประชาชนเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องว่า กฎหมายดังกล่าวจะช่วยคุ้มครองและสร้างความเป็นธรรมแก่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ รวมทั้งรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ไม่ใช่การคุกคามสิทธิส่วนบุคคลตามที่มีการกล่าวอ้าง โดยขอให้กลุ่มผู้ไม่หวังดียุติพฤติกรรมบิดเบือนข้อเท็จจริง หรือและสร้างความแตกแยกในทันที
ที่มาsanook